เชื่อว่าหลายคนยังคงมีภาพติดในหัวและความคิดที่ว่า ณ ปัจจุบันนี้รัสเซียยังคงเป็นประเทศคอมมิวนิสต์อยู่ หลายคนคิดว่ารัสเซียเป็นประเทศที่สวยเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมที่ควรค่าแก่การไปเยือนและชมความอลังการสักครั้งนึงในชีวิตก็ยังดี แต่หลายคนก็ยังติดกับความกลัว ไม่กล้าก้าวออกมาจากความคิดเดิมๆ ที่ฟังคนอื่นเล่าต่อๆ กันมาว่ารัสเซียเป็นประเทศน่ากลัว จนไม่กล้าที่จะไปเจอกับสิ่งใหม่ ๆ ทำให้หลายคนเสียโอกาสหลายอย่างในการที่จะได้สัมผัส ได้รับรู้ และได้ชื่นชมความสวยงานของประเทศรัสเซีย เพียงเพราะติดกับวลีที่ทราบโดยทั่วกันและได้ยินกันมาตลอดในสังคมไทยว่า “โหดสัสรัสเซีย” แค่วลีนี้วลีเดียวก็ทำให้คนกลัวรัสเซียมากแล้ว กอปรกับภาพติดตาของคนทั่วโลก ที่ได้เห็นภาพแย่ ๆ มุมผู้ร้ายของคนรัสเซียที่ตะวันตกพยายามสร้างขึ้นมา และภาพลักษณ์ภายนอกของคนรัสเซียเองที่แสดงออกมาให้เราเห็น ที่ว่าคนรัสเซียส่วนใหญ่หน้าตาไม่ค่อยต้อนรับ หรือไม่เป็นมิตรกับคนแปลกหน้าในการเจอกันครั้งแรก หน้าตาไม่ยิ้มแย้มเป็นมิตรเอาเสียเลย จนหลายคนมองว่าคนรัสเซียเป็น “เสือยิ้มยาก” แค่เพียงเท่านี้ จากเหตุผลที่กล่าวข้างต้นก็ทำให้หลายคนกลัวการไปเที่ยวที่ประเทศรัสเซียมากแล้ว กลัวว่าไปเที่ยวแล้วจะอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของตนเอง แต่เชื่อเถอะค่ะว่าหน้าตาที่ไม่ค่อยยิ้มและไม่ค่อยเป็นมิตรของคนรัสเซียนี้ จริงใจ จริงจัง และพร้อมช่วยเหลือชาวต่างชาติอย่างเราๆ เป็นที่สุด เพียงแต่ว่าเราต้องทราบวัฒนธรรมของประเทศเขา ไม่ใช่แค่เขาไม่ยิ้มเหมือนเรา เหมือนกับยุโรปประเทศอื่น หรือหน้าตาที่ไม่เป็นมิตรเหมือนกับคนอเมริกัน เราก็มองว่าเขาแปลก น่ากลัว และไม่น่าคบหาด้วยแล้ว เราต้องเข้าใจความเป็นเขาโดยผ่านการเรียนรู้จากวัฒนธรรมของเขาด้วย
ทำไมคนรัสเซียถึงไม่ชอบยิ้มให้คนแปลกหน้า? สำหรับคนรัสเซียแล้วการยิ้มให้คนแปลกหน้าที่ไม่รู้จัก ถือว่าเป็นการเสแสร้งและแสดงความไม่ซื่อสัตย์ คนรัสเซียเชื่อว่าการยิ้มให้คนแปลกหน้าเป็นการแสดงถึงความไม่จริงใจและจริงจังในหน้าที่ของตน เหมือนกับว่าเป็นคนที่ไม่จริงจังและไม่สามารถควบคุมตนเองได้ จึงยิ้มให้คนอื่นที่ไม่รู้จักไปทั่ว แต่หากเราได้รู้จักและสนิทกับคนรัสเซียแล้ว เขาก็จะยิ้มให้เราเหมือนคนคุ้นเคย และพร้อมช่วยเหลือเราทุกเรื่องเท่าที่เขาจะทำได้ ช่วยเหลืออย่างเต็มที่ แต่ปัจจุบันหากสังเกตดีๆ จะเห็นว่าคนรัสเซียก็กำลังพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงความเป็นตัวของตัวเองโดยการเริ่มยิ้มเล็กน้อย จะเห็นว่าคนรัสเซียยิ้มมากขึ้นกว่าเมื่อก่อนเยอะเลย เพราะประเทศเขาเป็นประเทศท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากอีกหนึ่งประเทศในโลก รัฐบาลจึงได้สนับสนุนให้คนรัสเซียมีใจที่รักการบริการ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เพิ่มมากขึ้น
ไม่ว่าจะเดินทางไปท่องเที่ยวที่ไหนก็ตามบนโลกนี้ รวมทั้งการไปเที่ยวที่รัสเซีย ทุกคนต้องระมัดระวังตนเองและทรัพย์สินของมีค่าของตนเองให้ดีอยู่เสมอทุกที่ทั่วโลก โดยเฉพาะตามแหล่งท่องเที่ยว เพราะอาชญากรมักจะใช้สถานที่ท่องเที่ยวแหล่งที่มีคนเยอะ ๆ เป็นสถานที่ก่ออาชญากรรม รัสเซียเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สวยงาม มีสถาปัตยกรรมที่วิจิตรงดงามที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้าประเทศเป็นจำนวนมาก แต่ในขณะเดียวกันก็ดึงดูดอาชญากรให้เข้ามาก่ออาชญากรรมด้วยเช่นกัน และเมื่อไปเที่ยวที่รัสเซียก็ต้องไปเที่ยวสองเมืองหลักที่มีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง คือ เมืองมอสโก (เมืองหลวง) ที่มีกลิ่นไอความเป็นรัสเซียโดยแท้ ทั้งตึก อาคาร ที่อยู่อาศัย สภาพแวดล้อม และบรรยากาศของเมืองมีความเป็นรัสเซียมากๆ และเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก (อดีตเคยเป็นเมืองหลวง) เป็นเมืองที่มีความเป็นยุโรปสูงมาก ท้องถนนสวยงาม สถาปัตยกรรมก็อลังการงดงามไม่แพ้ที่มอสโก เป็นเมืองที่โรแมนติค บรรยากาศโดยรอบต่างจากเมืองมอสโกโดยสิ้นเชิง
สำหรับการเที่ยวที่เมืองมอสโกค่อยข้างจะปลอดภัยมากกว่าการเที่ยวที่เมืองเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก แต่อย่างไรก็ตามเมื่ออยู่ตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ที่มีคนเป็นจำนวนมาก เช่น บริเวณจัตุรัสแดง บริเวณรอบจตุรัสแดง ในโบสถ์ต่างๆ ในพิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ ถนนคนเดินอารบัต ตลาดขายของฝากอิสไมรอฟ ตามสถานีรถไฟ หรือตามสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินและในขบวนของรถไฟฟ้าใต้ดิน ควรจะระมัดระวังกระเป๋าและทรัพย์สินของมีค่าของตนเองให้มากๆ โดยมีวิธีการสังเกตผู้กระทำความผิดเบื้องต้น คือ ผู้กระทำความผิดมีทั้งคนรัสเซียและชาวต่างชาติ แต่ส่วนใหญ่จะไม่ใช่คนรัสเซีย แต่จะเป็นคนที่มาจากประเทศแถบเอเชียกลาง เช่น คาซัคสถาน ทาจิกิสถาน อุซเบกิสถาน และคีร์กีซสถาน เพราะคนเหล่านี้เดินทางเข้ามาอาศัยและทำงานในประเทศรัสเซียได้ง่าย จะเข้ามาเป็นแรงงานรับจ้างงานก่อสร้าง รับจ้างทำงานที่ต้องใช้กำลังต่างๆ ที่ถือว่าเป็นพลเมืองชนชั้นที่สองของประเทศรัสเซีย หรือหากไม่ได้เดินทางเข้ามาทำงาน ชาวเอเชียกลางบางกลุ่มก็อพยพหนีเข้าประเทศรัสเซียทั้งที่ถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย โดยคนที่อพยพเข้ามาในรัสเซียก็มีเป็นจำนวนมากเช่นกัน และคนเหล่านี้มีฐานะทางเศรษฐกิจที่ค่อนข้างลำบากหรือยากจนนั่นเอง วิธีการสังเกตว่าลักษณะบุคคลประเภทไหนที่อันตรายและต้องระวังเป็นพิเศษ ให้ดูจากรูปลักษณ์ภายนอกก่อนเป็นสิ่งแรก คือ พวกคนเหล่านี้จะมีหน้าตาที่คล้ายคนเอเชียแบบเข้มๆ ผมสีเข้ม หน้าตาคม ชอบใส่เสื้อหนังสีดำ มีพฤติกรรมชอบจ้องมอง เดินวนเวียนและเข้ามาอยู่ใกล้ๆ เพื่อที่จะรอจังหวะในการล้วงกระเป๋าเอาทรัพย์สินและของมีค่าของเราไป โดยทั่วไปแล้วอาชญากรพวกนี้จะทำงานกันเป็นทีมตั้งแต่สองคนขึ้นไป นอกจากภัยจากการโดนล้วงกระเป๋าแล้ว สำหรับนักท่องเที่ยวที่เป็นผู้หญิงควรระมัดระวังตนเองดี ๆ ในพยายามสังเกตคนรอบ ๆ เพราะพวกคนจากประเทศที่กล่าวไปข้างต้น ชอบที่จะจ้องมองด้วยสายตาที่น่ากลัว และบางทีก็จะเข้ามาขอทำความรู้จักเลยก็มี สำหรับนักท่องเที่ยวที่เป็นผู้ชายก็ควรจะระวังคนเมาตามท้องถนน ในตอนกลางคืนไม่ควรไปในสถานที่เปลี่ยวที่ไม่ค่อยมีคน เพราะบางทีพวกคนเมาอาจจะมารีดไถขอเงินและหากไม่ให้ก็อาจจะถูกทำร้ายร่างกายได้ และการใช้บริการรถแท็กซี่ในรัสเซีย ก็ควรใช้บริการแท็กซี่จากบริษัทที่ต้องโทรเรียก หรือเรียกใช้บริการในแอพพลิเคชั่น เช่น Yandex.Taxi ไม่ควรโบกเรียกแท็กซี่เถื่อนตามท้องถนน เพราะคนขับรถแท็กซี่เถื่อนซี่จะคิดราคาที่สูงมากกว่าแท็กซี่บริษัท หรือบางครั้งเราก็ไม่อาจรู้ว่าจะเกิดอันตรายกับเราหรือไม่
สำหรับการเที่ยวที่เมืองเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก เมืองนี้อันตรายมากกว่าเมืองมอสโกมาก ๆ โดยผู้กระทำความผิดหรือผู้ก่ออาชญากรรมส่วนใหญ่จะเป็นชาวเอเชียกลางตามที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้น อาชญากรรมตามท้องถนนที่พบหลัก ๆ คือ การทำร้ายร่างกาย การลักทรัพย์ การปล้นทรัพย์ เป็นต้น เมืองเซนต์ปีเตอร์เบิร์กเป็นเมืองที่มีนักล้วงกระเป๋าเยอะมาก เป็นเมืองที่ต้องระมัดระวังกระเป๋าและทรัพย์สินของตนเองเป็นอย่างดี โดยหลัก ๆ แล้วจะนักล้วงกระเป๋าจะอยู่ตามแหล่งท่องเที่ยวและก่ออาชญากรรมกับนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นหลัก เช่น บนถนนเนียฟสกี้ (Nevsky) ถนนสายหลักที่นักท่องเที่ยวทุกคนเดินเล่นชมเมืองได้ทั่วทั้งสายของถนนเส้นนี้ บริเวณรอบๆ โบสถ์หยดเลือด โบสถ์คาซาน โบสถ์เซนต์ไอแซค บริเวณหน้าห้างสตอคมานบนถนนเนียฟสกี้ (จะมีกลุ่มวัยรุ่นชายดักวิ่งราวชิงทรัยพ์อยู่) บริเวณสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน (โดยเฉพาะสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินวาสตาเนียและสถานีใกล้ๆ กับสถานีไฟฟ้าวาสตาเนีย กล่าวคือ ขึ้นจากวาสตาเนีย แล้วลงสถานีต่อไป) และบริเวณสถานีรถไฟของเมืองเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก เมืองนี้มีการแจ้งเหตุที่สถานีตำรวจเยอะมากในเรื่องของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติโดนล้วงกระเป๋า นักล้วงกระเป๋าจะเลือกล้วงกระเป๋าของนักท่องเที่ยวที่แต่งตัวดูมีฐานะร่ำรวย นักท่องเที่ยวที่ใช้ของแบรนเนมราคาแพง นักท่องเที่ยวที่สะพายกระเป๋าเป้ไว้ด้านหลัง นักท่องเที่ยวที่ชอบนำกล้องถ่ายรูปมาคล้องไว้ที่คอ โดยเป้าหมายของนักล้วงกระเป๋า คือ กระเป๋าเป้สะพายหลัง กระเป๋าแพงๆ และสิ่งของมีค่าราคาแพง จากที่ทราบมาพบว่ามีนักท่องเที่ยวชาวไทยจำนวนมากถูกล้วงกระเป๋าและสูญเสียทรัพย์สินไปเป็นจำนวนมากที่เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
ตามข้อมูลสถิติจำนวนการก่ออาชญากรรมในเขตพื้นที่ต่าง ๆ ที่เมืองเซนต์ปีเตอร์เบิร์กภายในระยะเวลา 1 ปี พบว่ามี 4 เขตพื้นที่ที่มีการก่ออาชญากรรมมากที่สุดในเมืองเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก ที่เป็นทั้งอาชญากรรมที่เกิดกับคนท้องถิ่นชาวรัสเซียและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ได้แก่ เขตคาลินินสกี้ (Kalininsky), เขตเนียฟสกี้ (Nevsky), เขตปรีโมรสกี้ (Primorsky) และเขตวึยโบกสกี้ (Vyborgsky) เรียงตามลำดับจากมากไปน้อยของอัตราการก่ออาชญากรรม โดยทั้ง 4 เขตนี้เป็นเขตที่มีจำนวนประชากรหนาแน่นที่สุดในเมือง เป็นทั้งเขตที่อยู่อาศัย ห้างสรรพสินค้า สถานที่ท่องเที่ยว และสำนักงานต่าง ๆ การสำรวจข้อมูลประชากรเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2561 พบว่าจำนวนประชากรที่อาศัยอยู่ในเขตพื้นที่ 4 เขตพื้นที่ข้างต้นนั้น เป็นชาวเซนต์ปีเตอร์เบิร์กโดยกำเนิดเกือบ 40 % นอกนั้นเป็นผู้ที่อพยพย้ายเข้าไปทำงานและอาศัยอยู่ที่เมืองเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก
เขตเนียฟสกี้ถือว่าเป็นเขตที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ ๆ หลายที่ เป็นศูนย์รวมของนักท่องเที่ยวต่างชาติ หรือคนท้องถิ่นชาวรัสเซียจากเมืองอื่นที่มาเที่ยวที่เซนต์ปีเตอร์เบิร์ก มีห้างสรรพสินค้า สถานบันเทิง ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านขายของที่ระลึก เป็นต้น ทำให้ในเขตเนียฟสกี้นี้มีการก่ออาชญากรรมตามท้องถนนเป็นจำนวนมาก เช่น จากสถิติพบว่าในเขตนี้เกิดการก่ออาชญากรรมการขโมยรถมากเป็นอันดับที่สองของเมืองเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก และมีการกระทำความผิดลักทรัพย์มากเป็นอันดับที่สี่ของเมืองเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก เขตนี้จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมาก เพราะเป็นศูนย์รวมของสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญของเมืองเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก โดยการล้วงกระเป๋าเป็นอาชญากรรมที่เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมากที่สุด
สำหรับแนวทางการป้องกันภัยจากการถูกล้วงกระเป๋า (ภัยจากการถูกล้วงกระเป๋าส่วนใหญ่เกิดแค่ที่เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ที่มอสโกพบน้อยมาก) แนะนำว่าอย่าแต่งตัวให้ดูแพงมาก กระเป๋าแบรนเนมที่มีราคาแพงไม่ควรนำติดตัวออกมาเดินเล่นด้วย ไม่ควรสะพายกระเป๋าเป้ไว้ด้านหลัง ควรใช้กระเป๋าสะพายที่ง่ายต่อการพกพาและง่ายต่อการระมัดระวังเมื่ออยู่ตามแหล่งท่องเที่ยวที่มีคนเป็นจำนวนมาก ไม่ควรวางกระเป๋าไปทั่วในที่สาธารณะโดยขาดการระมัดระวัง ไม่ว่าจะตามร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านขายของที่ระลึก บนรถเมล์ หรือรถไฟฟ้าใต้ดินก็ตาม ให้ระมัดระวังกระเป๋าของตนเองตลอดเวลา ไม่ควรนำกระเป๋าสตางค์แบรนเนมราคาแพงพกติดตัวออกมาเที่ยวด้วย ควรจะพกแค่เงินสดที่จะใช้พอ ไม่ควรนำกล้องถ่ายรูปมาคล้องคอ แต่ควรนำกล้องใส่ถุงพลาสติกสีเข้มหรือกระเป๋าแล้วถือไว้แทนการคล้องไว้ที่คอ เพื่อไม่ให้กล้องเป็นเป้าล่อสายตาของนักล้วงกระเป๋า และไม่ควรไปเดินในที่เปลี่ยวลับสายตาคน ไม่ควรเดินตามท้องถนนโดยลำพังในยามวิกาล ไม่ควรพูดคุยกับคนแปลกหน้าที่มีพฤติกรรมที่แปลก ต้องคอยสังเกตคนรอบข้างบ่อยๆ หากพบว่ามีพฤติกรรมแปลกๆ ให้รีบออกห่างทันที จากข้อมูลของกระทรวงกิจการภายในของรัสเซีย พบว่า สืบเนื่องมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำลง ทำให้การก่ออาชญากรรมภายในประเทศมีอัตราที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงกลางคืนมีอัตราการก่ออาชญากรรมมากที่สุด ช่วงเวลาที่อันตรายที่สุด คือ ช่วงเวลา 22:00 – 03:00 น. และช่วงเวลาที่ปลอดภัยที่สุด คือ ช่วง 7:00 – 10:00 น. ในตอนเช้า หากเราระมัดระวังตนเองและทรัพย์สินส่วนตัวเป็นอย่างดีแล้ว ก็จะทำให้เราเที่ยวที่รัสเซียอย่างปลอดภัยห่างไกลโจร และเที่ยวอย่างมีความสุข สุขที่ได้เห็นความงดงามอลังการของสถาปัตยกรรมต่าง ๆ ได้ชมบ้านเมือง ถนนหนทาง ได้สัมผัสวัฒนธรรมแบบกึ่งยุโรปกึ่งเอเชียอย่างรัสเซีย และดื่มด่ำบรรยากาศความเป็นรัสเซียได้อย่างเต็มที่ ในกรณีเกิดเหตุร้ายขึ้นให้รีบแจ้งตำรวจที่นั่นทันที ตามสถานที่ท่องเที่ยวบางสถานที่ หรือตามสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน หรือตามท้องถนนก็จะมีตำรวจคอยตรวจตราอยู่ หรือจะติดต่อกงสุลที่เมืองเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก หรือสถานทูตไทยในมอสโกเพื่อขอรับความช่วยเหลือก็ได้เช่นกัน แต่อย่างไรก็ตามการท่องเที่ยวที่ประเทศรัสเซียจะไม่อันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินเลย หากระมัดระวังตนเองอยู่ตลอดเวลา ทั้งเมืองมอสโกและเซนต์ปีเตอร์เบิร์กเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สวยมาก รัสเซียถือว่าเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ สถานที่ท่องเที่ยวแต่ละที่มีความวิจิตร งดงามตระการตา และเป็นประเทศที่มีเสน่ห์ที่ผสมผสานวัฒนธรรมของสองทวีป คือ กึ่งยุโรปกึ่งเอเชีย ที่ควรค่าแก่การไปเยี่ยมชมสักครั้งในชีวิต
แหล่งข้อมูล
1. https://saintpetersburg.zagranitsa.com/article/4217/banditskii-peterburg-samye-kriminalnye-raiony-goroda
2. http://spbkriminal.tilda.ws/
3. https://www.fontanka.ru/2018/01/24/084/
4. https://spbhomes.ru/science/kriminalnye-rajony-sankt-peterburga/
6. http://udachirussia.blogspot.com/2013/12/blog-post.html
7. เพจ Facebook “เที่ยวรัสเซีย”
เรียบเรียงโดย: ดร.นวภัทร สมกำเนิด
คณะอาชญาวิทยาและการบริหารงานยุติธรรม
มหาวิทยาลัยรังสิต